il155wmsupatra
วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555
โปรเจ็คเรื่องทหาร
รายงาน
เรื่องทหาร
จัดทำโดย
นางสาวสุภัทรา คำวิชัย
คาบเรียนวันพุธเช้า
เสนอ
อาจารย์นวพร
สายสิงห์
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนของการศึกษาวิชาทักษะสาระนิเทศ
สาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
คณะเทคโนโลยีการจัดการ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
วิทยาเขตสุรินทร์
ภาคเรียนที่1
ปีการศึกษา 2555
คำนำ
รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนการสอนของนักศึกษาชั้นปีที่1
ซึ่งมีเนื้อหาสอดคล้องกับเรื่อง Trasformers1 และเป็นหนึ่งในรายวิชาทักษะทางสารนิเทศ
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลและเนื้อหาของรายงานเล่มนี้ สามารถสร้างประโยชน์ และให้ความรู้
ความสำคัญแก่ผู้ที่ต้องการหาข้อมูล และ
สนใจในเรื่องที่เกี่ยวกับ “ทหาร” ได้ไม่มากก็น้อย หากผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าขออภัยมา ณ
ที่นี้ด้วย
นางสาวสุภัทรา คำวิชัย
18 กันยายน 2555
สารบัญ
ความหมายและความสำคัญของอาชีพทหาร 1
บทบาทและหน้าที่ของทหาร
1
กองทัพบกไทย
3
กองทัพอากาศไทย
7
กองทัพเรือไทย 9
ภาคผนวก
11
บรรณานุกรม 12
ทหาร หมายถึง ผู้มีหน้าที่ในเรื่องรบ นักรบ
ผู้เป็นกำลังรักษาความมั่นคงและบำรุงประเทศและผู้เป็นกำลังรบและทำหน้าที่อื่นๆ
ในยามสงคราม
หน้าที่ ภารกิจ และบทบาท
กองทัพมีหน้าที่เตรียมกำลังกองทัพ การป้องกันราชอาณาจักร และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังกองทัพเตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม
ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551[2] ตลอดจนหน้าที่อื่นๆ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล
จากหน้าที่ดังกล่าวทำให้กองทัพเรือมีภารกิจ คือ
การปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
การรักษาสิทธิและอธิปไตยของชาติทางทะเล
การคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
การดำรงการคมนาคมทางทะเลให้ได้อย่างต่อเนื่อง
การช่วยเหลือและสนับสนุนการป้องกันอธิปไตยทางบก
การสนับสนุนการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ
การสนับสนุนการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน
การปฏิบัติการทางทหาร (Military Role) คือ
การปฏิบัติการทางเรือเพื่อการป้องกันประเทศในรูปแบบต่างๆ
ตามสถานการณ์ที่กระทบต่ออำนาจอธิปไตยและเอกราชของประเทศ
ซึ่งจำเป็นต้องใช้กำลังทางเรือที่เข้มแข็ง ปฏิบัติการด้วยความเฉียบพลัน รุนแรง
และเด็ดขาด
การรักษากฎหมายและช่วยเหลือ (Constabulary
Role) คือ การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การรักษากฎหมายตามที่รัฐบาลมอบอำนาจ
ให้ทหารเรือเป็นเจ้าหน้าที่รวม 28 ฉบับ
รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนและการพัฒนาประเทศ
การสนับสนุนกิจการระหว่างประเทศ (Diplomatic
Role) คือ การสนับสนุนการดำเนินนโยบายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาล
และใช้หรือแสดงกำลังเพื่อสนับสนุนการเจรจาต่อรอง
เมื่อมีการขัดกันในผลประโยชน์ของชาติหรือเหตุการณ์วิกฤติที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติโดยตรง
กองทัพบกไทย
กองทัพบกไทย
เป็นเหล่าทัพที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดในกองทัพไทย
ก่อตั้งเป็นกองทัพสมัยใหม่ขี้นในปี พ.ศ. 2417 เหตุผลส่วนหนึ่งคือ
เพื่อรับมือกับการคุกคามรุกแบบใหม่จากอังกฤษ ภายหลังการทำสนธิสัญญาเบาว์ริง
และการเปิดประเทศใน พ.ศ. 2398
ประวัติ
กองทัพบกได้ถือกำเนิดมาพร้อม ๆ กับการก่อตั้งราชอาณาจักรไทย
และเป็นรากฐานของความมั่นคงของประเทศตลอดมา
การปฏิรูปการทหารบกของไทยเป็นแบบตะวันตก
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือต้นแบบของกิจการทหารบกสมัยปัจจุบัน
กองบัญชาการกองทัพบก สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงราชสมบัติ เมื่อ พ.ศ. 2394
กิจการแรกที่พระองค์ทรงกระทำ คือ ทรงตั้งเจ้าพระยาพระคลัง (ดิส บุนนาค)
ว่าที่สมุหพระกลาโหมขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ดำรงตำแหน่งสมุหพระกลาโหม
และให้จัดการเรื่องกิจการทหารเป็นการด่วน
โดยให้ปรับปรุงกองทัพบกให้เป็นแบบสมัยใหม่
และมีประสิทธิภาพที่สามารถป้องกันประเทศชาติได้ ทั้งนี้
เพราะประเทศมหาอำนาจทางตะวันตกได้แผ่อิทธิพลเข้ามา
อยู่เหนือประเทศทางภูมิภาคเอเซียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้
และมีท่าทีคุกคามต่อประเทศไทยยิ่งขึ้นตามลำดับ
สำหรับการปรับปรุงในด้านวิทยาการนั้น พระองค์ทรงจ้าง ร้อยเอก อิมเปย์ และ ร้อยเอก
น็อกส์ ชาวอังกฤษ ซึ่งเดินทางจากอินเดียผ่านเข้ามาทางพม่า ให้เป็นครูฝึกหัดทหารบก
ทั้งทหารของวังหน้าและวังหลวง ดังนั้นใน พ.ศ. 2395 กองทหารที่ได้รับการฝึกและจัดแบบตะวันตก กิจการทหารบกได้รุดหน้าไปอีก
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พระเจ้าพี่ยาเธอ
กรมหลวงมหิศวรินทรามเรศ ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองทหารหน้าใน พ.ศ. 2398 พระองค์ทรงรวบรวมกองทหารที่อยู่อย่างกระจัดกระจายทั่วกรุงเทพฯ
มารวมไว้ที่เดียวกัน คือโรงทหารสนามไชย กองทหารดังกล่าวคือ
กองทหารฝึกแบบยุโรป
(เดิมอยู่ริมคลองโอ่งอ่างฝั่งตะวันออก)
กองทหารมหาดไทย
(ซึ่งถูกเกณฑ์มาจากหัวเมืองฝ่ายเหนือ)
กองทหารกลาโหม
(ซึ่งถูกเกณฑ์มาจากหัวเมืองฝ่ายใต้)
กองทหารเกณฑ์หัด (คือพวกขุนหมื่นสิบยก
กองทหารเกณฑ์หัดนี้ ขึ้นกับกองทหารหน้า)
จะเห็นได้ว่า
การจัดการทหารบกแบบตะวันตกหรือกองทัพบกปัจจุบันนี้เริ่มขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอม
เกล้าเจ้าอยู่หัว แต่เป็นไปในวงแคบ อำนาจในการปกครองบังคับบัญชาทหารในกรุงเทพฯ
แยกออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ทหารที่สังกัดพระบรมมหาราชวังขึ้นโดยตรงต่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ส่วนทหารที่สังกัดพระบวรราชวัง หรือวังหน้า ขึ้นโดยตรงต่อ
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนทหารในหัวเมืองก็แยกขึ้นกับ
สมุหพระกลาโหม และสมุหนายก
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ
พระองค์มิได้แถลงพระบรมราโชบายในการจัดการทางทหารไว้เป็นที่เด่นชัด อย่างไรก็ดี
เมื่อพิจารณาถึงสภาวการณ์ และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ รวมทั้งวิธีการทางทหาร
ตลอดจนพระปรีชาญาณในการบริหารประเทศแล้วอาจพิจารณาได้ว่า
พระองค์น่าจะทรงมีพระราชประสงค์ในการจัดการทางทหารเป็น 2 ประการ คือ
การปฏิรูปการทหารเพื่อความมั่นคงแห่งราชบัลลังก์
การปฏิรูปการทหารเพื่อความเจริญทางด้านการทหารเอง
และให้เหมาะสมกับกาลสมัย ตลอดจนสามารถรักษาความปลอดภัยให้แก่ประเทศชาติ
เนื่องจาการทหารในสมัยนั้นยังเป็นไปในลักษณะกระจัดกระจาย
อยู่ในสังกัดอำนาจของบุคคลหลายฝ่าย
จึงทำให้การปฏิรูปการทหารของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในระยะแรกมีขอบเขตจำกัด ต่อมาใน พ.ศ. 2415
ภายหลังจากการเสด็จไปประพาสสิงคโปร์และปัตตาเวียแล้ว
พระองค์โปรดให้ปรับปรุงการทหารให้กาวหน้ายิ่งขึ้น โดยนำแบบอย่างการทหารที่ชาวยุโรปนำมาฝึกทหารในอาณานิคมของตน
แต่ได้ดัดแปลงแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาพของประเทศไทย โปรดให้แบ่งหน่วยทหารออกเป็น 7 หน่วย ดังนี้
กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
กรมทหารรักษาพระองค์
กรมทหารล้อมวัง
กรมทหารหน้า
กรมทหารปืนใหญ่
กรมทหารช้าง
กรมทหารฝีพาย
พ.ศ. 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงหารือกับพระบรมวงศานุวงศ์และเสนาบดี ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า
ควรจัดการทหารอย่างใหม่เป็นระเบียบแบบแผนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนั้น
ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2430 จึงได้มี
"ประกาศจัดการทหาร" ขึ้น โดยตั้ง "กรมยุทธนาธิการ"
มีลักษณะเป็นกรมกลางของทหารบก และทหารเรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงดำรงพระราชอิสริยยศตำแหน่ง "จอมทัพ"
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็น
"ผู้บังคับบัญชาการทั่วไป" และเพื่อให้หน่วยทหารได้รับการบังคับบัญชาดูแลได้ทั่วถึง
จึงทรงแต่งตั้งตำแหน่งผู้ช่วยเหลือผู้บังคับบัญชาทั่วไปอีก 4
ตำแหน่ง คือ
เจ้าพนักงานใหญ่ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก
เจ้าพนักงานใหญ่ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ
เจ้าพนักงานใหญ่ ผู้บัญชาการใช้จ่าย
เจ้าพนักงานใหญ่ ผู้บัญชาการยุทธภัณฑ์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เนื่องจากพระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิสต์
ประเทศอังกฤษ ทั้งยังทรงรับราชการในกรมทหารราบเบาเดอรัม และค่ายฝึกทหารปืนใหญ่
นับว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ได้ทรงศึกษาวิชาทหารบกจากต่างประเทศโดยเฉพาะ
เมื่อพระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ จึงทรงปรับปรุงกิจการทหารบกให้ดียิ่งขึ้น
และเจริญก้าวหน้าตามแบบอย่างทหารในทวีปยุโรป
พระองค์ทรงให้มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารกิจการทหารใหม่ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2453 โดย
เปลี่ยนชื่อกรมยุทธนาธิการ เป็น กระทรวงกลาโหม มีหน้าที่ดูแลการปกครองเฉพาะกิจการทหารบก
ยกกรมทหารเรือ ขึ้นเป็น กระทรวงทหารเรือ
จัดตั้งสภาป้องกันพระราชอาณาจักร ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างกระทรวงกลาโหม
และกระทรวง
กองทัพอากาศไทย
กองทัพอากาศไทย
(อักษรย่อ: ทอ.,อังกฤษ: Royal Thai Air Force : RTAF) เกิดขึ้นภายหลังจากการจัดตั้งกองทัพอากาศฝรั่งเศส
ซึ่งเป็นกองทัพอากาศหน่วยแรกของโลกเพียง 4 ปีเท่านั้น
ถือได้ว่าเป็นกองทัพอากาศที่ก่อตั้งเป็นลำดับแรกๆ ของเอเชีย
และมีวีรกรรมครั้งสำคัญเกิดขึ้นมากมายในช่วงกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส
ปัจจุบันมีกองบัญชาการอยู่ที่เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ และภายในปี พ.ศ. 2554
หลังจากได้รับมอบฝูงบิน Gripen กับเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศจากบริษัท
Saab และการปรับปรุงครึ่งชีวิตให้กับฝูงบิน F-16-A/B ให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับรุ่น C/D กองทัพอากาศไทยจะมีอิทธิพลทางอากาศมากเป็นอันดับที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากสิงคโปร์ในแง่ของขีดความสามารถและความทันสมัยของอากาศยาน
แนวความคิดที่ให้มีเครื่องบินใช้ในราชการ ได้เริ่มขึ้นในรัชสมัยของ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เมื่อชาวเบลเยี่ยมชื่อ Van Den Born ได้นำเครื่องบินแบบออร์วิลไรท์มาแสดงการบินในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
ณ สนามม้าสระปทุม เพื่อเป็นการแสดงการบินสู่สายตาประชาชนชาวไทยในวันที่ 2
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2453(ค.ศ. 1911) จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
ขณะนั้นทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบกทรงเห็นความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องจัดหาอากาศยานไว้ป้องกันประเทศ
จึงทรงดำริจัดตั้งกิจการการบินขึ้นเป็นแผนกหนึ่งของกองทัพบก
อยู่ที่สนามราชกรีฑาสโมสร (สนามม้าสระปทุม) อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลโท
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมขุนกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน จเรทหารช่าง
และส่งนายทหารไปเรียนวิชาการบินที่ประเทศฝรั่งเศส จำนวน 3 นายประกอบด้วย
นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ (สุณี สุวรรณประทีป) ต่อมาเป็น
พลอากาศโท พระยาเฉลิมอากาศ
นายร้อยเอก หลวงอาวุธสิขิกร (หลง สินศุข) ต่อมาเป็น นาวาอากาศเอก
พระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์
นายร้อยโท ทิพย์ เกตุทัต ต่อมาเป็น นาวาอากาศเอก พระยาทะยานพิฆาต
ทั้งสามท่านได้เข้าเรียนที่บริษัทนีเออร์ปอร์ต (Nieuport Company) ในเดือนมกราคมปี
พ.ศ. 2454
หลังจากท่านทั้งสามสำเร็จวิชาการบิน ก็ได้ซื้อเครื่องบิน 2 แบบ 8 ลำ
คือ Nieuport และ Breguet
แบบละ 4 ลำ โดยระยะแรกได้ใช้สนามม้าสระปทุมเป็นสนามบิน
แต่ด้วยปัญหาบางประการทำให้สนามม้าสระปทุมไม่สามารถรองรับกิจการการบินที่เติบโตขึ้นได้
จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ ทรงย้ายที่ตั้งแผนกการบิน
มาที่ตำบลดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2457 และทรงยกฐานะแผนกการบิน
เป็น"กองบินทหารบก" ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2457
ต่อมากระทรวงกลาโหมได้ยึดถือวันนี้เป็น "วันที่ระลึกกองทัพอากาศ"
หลังจากนั้นกิจการการบินได้เติบโตเรื่อยมา
โดยกองบินทหารบกได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 กับฝ่ายสัมพันธมิตร
กองบินทหารบกจึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "กรมอากาศยานทหารบก"
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2464 ด้วยการเติบโตของกำลังทางอากาศ
จึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "กรมทหารอากาศ" และวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.
2480 จึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "กองทัพอากาศ" มียศและเครื่องแต่งกายเป็นของตนเอง
โดยนาวาอากาศเอก พระเวชยันต์รังสฤษฎ์ เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศคนแรก
จึงถือเอาวันนี้เป็น "วันกองทัพอากาศ" และยกย่องถวายพระเกียรติจอมพล
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ว่าเป็น
"พระบิดาแห่งกองทัพอากาศไทย" และยกย่องนายทหาร 3 ท่าน
ที่ไปเรียนวิชาการบินรุ่นแรกว่าเป็น "บุพการีทหารอากาศ"
กองทัพอากาศได้สร้างวีรกรรมและยุทธเวหาไว้มากมาย
โดยเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามอินโดจีน
สามารถสร้างความพรั่นพรึงให้กับอริราชศัตรูของชาติได้อย่างมาก
ปัจจุบัน กองทัพอากาศมีกำลังทางอากาศทั้งสิ้น 11 กองบิน กับ
1โรงเรียนการบิน โดยมีอากาศยานรวมเกือบ 320 ลำ
นอกจากนี้ กองทัพอากาศดอนเมือง
ยังเคยเป็นสถานที่แข่งขันรายการเกมโชว์ทางโทรทัศน์อัจฉริยะข้ามคืน ล้านที่ 3
อีกด้วย
กองทัพเรือไทย
กองทัพเรือไทย หรือ
ราชนาวี (คำย่อ : ทร. ชื่อภาษาอังกฤษ : Royal Thai Navy คำย่อภาษาอังกฤษ :
RTN) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติการทางทหารในทะเล
ลำน้ำ และพื้นที่บริเวณชายฝั่งของประเทศไทย
กองทัพเรือมีจำนวนกำลังพลประจำการเป็นลำดับ 2 (รองจากกองทัพบก) ซึ่งมีเรือปฏิบัติการด้วยเรือรบกว่า
340 ลำ อากาศยานกว่า 90 เครื่อง และกำลังรบทางบกอีก 2 กองพล
นับเป็นกองทัพเรือที่มีความสำคัญในลำดับต้นของภูมิภาคเอเชีย
กองทัพเรือมีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด
โดยเป็นหน่วยงานในสังกัดของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บังคับบัญชา
และอยู่ในสังกัดของกระทรวงกลาโหม
กองทัพเรือมีพื้นที่ปฏิบัติการหลักทั้งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
ตามแนวเขตแดนระหว่างประเทศในทะเลความยาวกว่า 1,680 ไมล์
และตามแนวชายฝั่งความยาวกว่า 1,500 ไมล์ หน่วยต่างๆ ในสังกัดกองทัพเรือมีลักษณะการจัดโครงสร้างหน่วยที่คล้ายกับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกามาก
โดยเฉพาะในหน่วยกำลังรบ คือ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ (กบร. กร.)
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร. กร.)
และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.)
บรรณานุกรม
รัติกร
สุขทรัพย์. ทหารไทยในสนามรบ. กรุงเทพฯ : ธุรกิจการพิมพ์,2544.
กุลยา
วาโย และ ประคอง
พรชำนิ. (2536).“ทหารเรือ”. ใน มยุรา
กาญจนางกูร (บรรณาธิการ). เอกสาร ________การสอนชุดวิชามโนมติและกระบวนการพยาบาลทหารเรือ
หน่วยที่ 2 - 15. (หน้า
49- 78). ________กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
วิทยา
นาควัชระ. "ชีวิตของผู้อุทิศ”
: อาชีพทหาร" สกุลไทย. 40(2047)
: 191 - 192 ; 26 ตุลาคม 2544.
พิมลพรรณ
พิทยานุกูล. กองทัพทหาร. [ออนไลน์].
เข้าถึงได้จาก : http://th.wikipedia.org/wiki . . (วันที่ค้นข้อมูล : 16 กันยายน 2555).
เรวัติ ยศสุข. "ประเภทของทหาร".
[ออนไลน์]. 6(6) เข้าถึงได้จาก : ……………http://sftanaka.blogspot.com/2009/12/blog-post.html . (วันที่ค้นข้อมูล : 16 กันยายน 2555).
วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ทดสอบเขียนบรรณานุกรมหนังสือ
ประเวศ วะสี. (2547). กระบวนการนโยบายสาธารณะ. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ.
อำพล
ซื่อตรง. (2535). การจัดศูนย์บริการรถยนต์. กรุงเทพฯ:
ศูนย์ส่งสริมวิชาการ.
บุญธรรม
ภัทราจารุกุล. [ม.ป.ป.]. ชิ้นส่วนเครื่องกล.
[ม.ป.ท.]: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ภาคิน วังสถิตธรรม. (2555) ใช้รถ ต้องรู้.
[ม.ป.ท.]: ธนิดา วังสถิตธรรม.
ฝ่ายวิชาการเอ็กซเปอร์เน็ท. (2555). อาเซียน 360 องศา.
[ม.ป.ท.]: บิสคิต.
โรว์ลิ่ง, เจ.เค. (2544). แฮรี่พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี.
(งามพรรณ เวชชาชีวะ, ผู้แปล). [ม.ป.ท.]: นามมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์.
Foster, Dean Alan. (2007). Transforsmer. [n.p.]: Random House.
วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ทดสอบโพสบทความ
มาตรฐานเว็บนักศึกษา
- ตั้งชื่อเว็บโดยขึ้นต้นด้วย IL155คาบเรียน-ชื่อจริง (เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด)
- เมนูด้านข้างต้องประกอบด้วย Gadget ต่อไปนี้ คือ ข้อความแนะนำตัว, ลิงก์ และป้ายกำกับ โดยให้ข้อความแนะนำตัวขึ้นเป็นรายการแรก
- ภายใต้ Gadget ลิงก์ ให้มีลิงก์ของเว็บต่อไปนี้ คือ เว็บอาจารย์, Mediafire, GooleDocs, Ckassmarker
- แก้ไขโปรไฟล์โดยการใส่ภาพถ่าย
- ห้ามโพสต์ภาพและข้อความที่ไม่เหมาะสม
- การ Copy ภาพและข้อความจากเว็บอื่น ให้ระบุที่มาและ Copy ลิงก์ของเว็บต้นแหล่งมาไว้ให้ทราบด้วย
credit pic to original upload
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)